RPTseal RPTseal
RPTseal RPTseal
  ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บเไซด์ www.RPTseal.com
หน้าแรก เกี่ยวกับเรา บริการ เรื่องน่ารู้ สินค้า(Product) โอริง(Oring) ออยซีล(Oil Seal) สายพาน(Transmission Belt) สั่งซื้อ/ชำระเงิน/จัดส่ง ติดต่อเรา FAQ
หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
บริการ
สินค้า/ผลิตภัณฑ์
เรื่องน่ารู้
>>โอริง(Oring)
  1.โอริง(Oring) คืออะไร
  2.หลักการทำงานโอริง(Oring)
  3.ชนิดโอริง(Oring Type)
    #โอริง NBR (NBR Oring)
    #โอริงซิลิโคน (Silicone Oring)
    #โอริงไวตัน (Viton® Oring)
  4.วัสดุใช้ผลิตโอริง
(Oring Material)
  5.สเปกและขนาดของโอริง
(Oring Specfication)
 
>>ออยซีล(Oil Seal)
  1.ออยซีล(Oil Seal) คืออะไร
  2.โครงสร้างส่วนประกอบออยซีล
(Oil Seal Structure)
  3.การทำงานของออยซีล
(Oil Seal Principle)
  4.วัสดุที่ผลิตส่วนประกอบออยซีล
(Oil Sesl Material)
  5.ชนิดของการออกแบบออยซีล
(Oil Seal Design Type)
  6.สเปกและขนาดของออยซีล
(Oil Seal Specification )
     
>>สายพานส่งกำลัง(Transmission)
  1.สายพานส่งกำลังคืออะไร
(Transmission Belt)
  2.หลักการทำงานสายพานส่งกำลัง
(Basic of Transmission Belt)
  3.โครงสร้างพื้นฐานสายพานส่งกำลัง
(Structure of Transmission Belt)
  4.ชนิดของสายพานส่งกำลัง
(Type of Transmission belt)
  5.มาตรฐานของสายพานส่งกำลัง
(Standard Code)
สั่งซื้อ/ชำระเงิน/จัดส่ง
ติดต่อเรา
FAQ
   

1. ORing (โอริง)

OringDaimension OringDiamension
  1.1 โอริง(Oring) คือ อะไร
  โอริง(Oring) คือ วัสดุที่มีพื้นที่หน้าตัดเป็นรูปวงกลม และมีรูปทรงเป็นวงกลมด้วยเช่นกัน ผลิตมาจากวัสดุที่มี
คุณสมบัติยีดยุ่นได้ (Elastomers Material) จากวัสดุสงเคราะห์ชนิดต่างๆที่มีคุณสมบัติต่อสภาพการใช้งานที่แตกต่าง
กัน ทั้งสภาพแวดล้อมของวัสดุที่นำไปใช้(Fluid)  แรงดัน(Pressure) รวมทั้งอุณหภูมิความร้อน(Temperature)
  โอริง(Oring) จะถูกใช้งานในชิ้นส่วนของเครื่องจักร ชิ้นส่วนยานยนต์ จักรกลต่างๆ  จะทำหน้าที่เป็นซีล(Seal)
กันรั่วซึมของของไหล(Fluid) ในอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนต่างๆที่สภาวะแวดล้อมนั้น อย่างเช่นของเหลว(Liquids) หรือก๊าซ
(Gases) ทั้งในระบบขนถ่ายและระบบกำลังของของไหล(Fluid)  ซึ่งโอริง(Oring)จะถูกติดตั้งในชิ้นส่วนอยู่ 2 แบบคือ
เป็นซีล(Seal)กันรั่วซึมตามข้อต่อต่างๆ(Static Seals) และอุปกรณ์เคลื่อนที่กลุ่มงานโรตารี่ต่างๆ(Rotary Seals)
   
  1.2 การทำงานของโอริง(Oring)
   โอริง(Oring)หลังจากที่ติดตั้งเข้าไปในตำแหน่งติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง เพื่อที่
ให้ตัวเข้ารูปกับวัสดุที่เป็นวัสดุแข็ง  ทำให้ระหว่างผิวโอริง(Oring)กับผิวของวัสดุแข็งแนบสนิทไม่มีช่องว่าง รวมทั้งเมื่อ
โอริง(Oring) ได้รับแรงดันจากระบบที่ทำงาน จะยิ่งเพิ่มความสามารถขึ้นไปอีกเพราะเมื่อด้านหนึ่งถูกแรงดันกระทำ จะ
ทำให้อีกด้านหนึ่งเกิดการขยายตัวนั้นเอง...
   
OringPrinciple OringPrinciple
   
  1.3  ชนิดของโอริง(Oring Type)
  ประเภทหรือชนิดของโอริง(Oring) จะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาผลิตเป็นโอริง(Oring)และลักษณะของการนำ
ไปใช้งานเป็นหลัก ซึ่งโอริง(Oring) ไม่ได้มีหน้าตาเป็นแบบอื่นๆเลยนอกจากมีพื้นที่หน้าตัดเป็นวงกลม และรูปทรงก็
เป็นวงกลมด้วยเท่านั้น ฉะนั้นจึงขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาผลิตและการนำไปใช้งานเท่านั้น เช่น  FFPM, NBR, EPDM,
PTFE, VMQ, FVMQ เป็นต้น ส่วนโอริง(Oring)ที่มีการผลิต และใช้กันมากทั้งในอุตสาหกรรมฯ, เครื่องมืออุปกรณ์
และในงานทั่วๆไป หลักๆพอสรุปได้ดังนี้
  - โอริง(Oring) NBR (Nitrile, Buna-N, NBR)
  - โอริง(Oring) ไวตัน Viton (Viton® or Fluorocarbon,FKM)
  - โอริง(Oring) ซิลิโคน (Silicone, VMQ)
  - โอริง(Oring) EPDM (Ethylene Propylene)
   
  1.4  วัสดุที่ใช้ผลิตโอริง (Oring Material)
  วัสดุที่ใช้ผลิตโอริง มีการคิดค้นขึ้นมาใช้กันหลากหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติต่อการใช้งานแตกต่างกัน
ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน แต่มีไม่กีชนิดที่รู้จักกันและนิยมใช้กันในชิ้นส่วนเครื่องจักรกล ดังนี้
  Oring Material
  PTFE O-Rings
  Silicone O-Rings
  Viton® O-Rings, Fluorocarbon (FKM)
  Buna O-Rings, NBR Oring
  EPDM O-Rings
  Other Available Materials
   
  Nitrile (Buna-N, NBR)
  ไนไตรเป็นยางทั่วๆไป ในกลุ่มของ Acrylonitrile Terpolymer Butadiene   โดย acrylonitrile เป็นสาร
ประกอบไนไตรล์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ(18% ถึง 50%)  มีผลต่อสมบัติทางกายภาพของวัสดุ ส่งผลดีต่อความต้าน
ทานต่อน้ำมันและความร้อนระดับหนึ่งในช่วงอุณหภูมิ -40 °C ถึง 120 °C(oil) หรือ 90 °C(water)  ขณะเดียวกันยังมี
ความยืดหยุ่นและมีความต้านทานต่อแรงกดบีบอัด ยางไนไตรยังมีคุณสมบัติเชิงกลที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับยางชนิดอื่น ๆ 
และมีความต้านทานการสึกหรอสูง จึงนิยมใช้กันมาก
   
  CR (Chloroprene)
  เป็นยางสังเคราะห์ในยุคแรกที่พัฒนาในเชิงพาณิชย์ ถูกนำไปใช้งานทั่วไปในสภาวะที่ต้องการความต้านทาน
ต่อสารเคมี แต่ก็มีสมบัติเชิงกลที่ดีในช่วงอุณหภูมิที่กว้างๆ  เป็นยางที่มีต้นทุนต่ำสามารถพบได้ในกลุ่มยางรองเท้าและ
ผลิตภัณฑ์ทั่วไป ในช่วงอุณหภูมิ -40 °F ถึง 250 °F (-40 °C ถึง 121 °C) ช่วงหลังๆไม่เป็นที่นิยม
   
  EPDM (Ethylene Propylene)
  EPDM เป็นพอลิเอทิลีน(ethylene) และโพรพิลี(propylene)  โดยยาง Ethylenepropylene diene-(EPDM) 
จะถูกผลิตโดยใช้โมโนเมอร์ที่สามและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการกันรั่วซึมในของเหลวไฮดรอลิคส์ และในระบบเบรก  
มีช่วงอุณหภูมิการทำงานในวงกว้าง  -65 °F ถึง 300 °F (-55 ?C ถึง 150 °C) นอกจากนี้นี้ยังใช้ในการอบไอน้ำและ
อุณหภูมิที่ต่ำกว่าการใช้งานที่อุณหภูมิปรกติด้วย
   
  Silicone (VMQ)
  ซิลิโคน เป็นยางที่ครอบคลุมกลุ่มของวัสดุจำพวก vinyl-methyl-silicone(VMQ) ซึ่งมักจะเป็นส่วนผสมกลางๆ 
ยางซิลิโคนเป็นยางที่มีความต้านทานแรงดึงค่อนข้างต่ำฉีกขาดง่ายและมีความต้านทานการสึกหรอได้ไม่ดี แต่ซิลิโคน
มีความต้านทานความร้อนได้ดีขึ้นถึง 450 °F (232 °C) และสภาวะความเย็นได้ดีที่ -75 °F (-59 °C) 
   
  Viton® or Fluorocarbon (FKM)
  Viton®(fluorocarbon rubber) เป็นยางที่มีคุณสมบัติที่ดีมากตัวหนึ่งที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นเพื่อผลิตเป็นยาง
ขอบซีล(Seal rubber) เป็นยางที่มีคุณสมบัติสามารถต้านทานได้ดีในที่อุณหภูมิสูงในทุกๆสภาพ เช่น อากาศทั่วไป, ใน
น้ำมันไฮโดรลิกส์, น้ำมันเชื้อเพลิง, สารตัวทำละลาย, หรือสารละลายเคมีบางอย่าง เป็นตัน จึงเป็นวัสดุที่ดีที่ถูกเลือกนำ
นำมาเป็นวัสดุยางซีล(Seal rubber) Viton® มีความสามารถในช่วงอุณหภูมิ -15 °F ถึง 450 °F (-26 °C ถึง 232 °C)
   
  Fluorosilicone (FVMQ)
  ฟลอโร่ซิลิโคน(Fluorosilicone) เป็นยางในกลุ่ม trifluoropropyl ถัดจากกลุ่มเมธิล มีสมบัติเชิงกลและกายภาพ
คล้ายกับยางซิลิโคน(Silicone,VMQ)แต่ฟลอโร่ซิลิโคนคิคค้นพัฒนาขึ้นสำหรับงานระบบน้ำมันเชื้อเพลิงโดยมีความ
ต้านทานต่อสารแร่ในน้ำมัน แต่ทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ไม่ดีเมื่อเทียบกับซิลิโคน ยางฟลอโร่ซิลิโคนมีช่วงอุณหภูมิที่
กว้างที่ในช่วงอุณหมูมิ 350°F(180°C) ถึง100°F(38°C)ซึ่งจะใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับงานแรงดันต่ำในระบบ
น้ำมันเชื้อเพลิง และสภาพอากาศที่เย็นจัดๆ ได้เป็นอย่างดี
   
  1.5 สเปกและขนาดของโอริง (Oring Specification )
  Oring Spec
  มาตรฐานการกำหนดสเปกและขนาดของโอริง(Oring) จะถูกกำหนดด้วย 2 ค่าตัวแปรที่สำคัญ คือ
  d1 คือ ขนาดเส้นผ้าศูนย์กลางภายใน(Inner Diameter) ของโอริง
  d2 คือ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางพื้นที่หน้าตัด(Arear Diameter) ของโอริง
    โดยมีรูปแบบ ดังนี้
 

ชนิดวัสดุ,

d1 x d2

    ตัวอย่างเช่น
 
Oring - NRB 60.00 x 3.55
Oring - NRB 60.00 x 5.00
Oring - NRB 60.00 x 7.00
         
Oring - VMQ 120.00 x 2.20
Oring - VMQ 120.00 x 5.60
Oring - VMQ 120.00 x 10.00
   

 
     
หน้าแรก เกี่ยวกับเรา บริการ เรื่องน่ารู้ โอริง(Oring) ออยซีล(Oil Seal) สายพาน(Transmission Belt) สั่งซื้อ/ชำระเงิน/จัดส่ง ติดต่อเรา FAQ
CopyRight @ 2012 by www.RPTseal.com