1. ORing (โอริง) |
|
|
1.1 โอริง(Oring) คือ อะไร |
|
โอริง(Oring) คือ วัสดุที่มีพื้นที่หน้าตัดเป็นรูปวงกลม และมีรูปทรงเป็นวงกลมด้วยเช่นกัน ผลิตมาจากวัสดุที่มี |
คุณสมบัติยีดยุ่นได้ (Elastomers Material) จากวัสดุสงเคราะห์ชนิดต่างๆที่มีคุณสมบัติต่อสภาพการใช้งานที่แตกต่าง |
กัน ทั้งสภาพแวดล้อมของวัสดุที่นำไปใช้(Fluid) แรงดัน(Pressure) รวมทั้งอุณหภูมิความร้อน(Temperature) |
|
โอริง(Oring) จะถูกใช้งานในชิ้นส่วนของเครื่องจักร ชิ้นส่วนยานยนต์ จักรกลต่างๆ จะทำหน้าที่เป็นซีล(Seal) |
กันรั่วซึมของของไหล(Fluid) ในอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนต่างๆที่สภาวะแวดล้อมนั้น อย่างเช่นของเหลว(Liquids) หรือก๊าซ |
(Gases) ทั้งในระบบขนถ่ายและระบบกำลังของของไหล(Fluid) ซึ่งโอริง(Oring)จะถูกติดตั้งในชิ้นส่วนอยู่ 2 แบบคือ |
เป็นซีล(Seal)กันรั่วซึมตามข้อต่อต่างๆ(Static Seals) และอุปกรณ์เคลื่อนที่กลุ่มงานโรตารี่ต่างๆ(Rotary Seals) |
|
|
|
1.2 การทำงานของโอริง(Oring) |
|
โอริง(Oring)หลังจากที่ติดตั้งเข้าไปในตำแหน่งติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง เพื่อที่ |
ให้ตัวเข้ารูปกับวัสดุที่เป็นวัสดุแข็ง ทำให้ระหว่างผิวโอริง(Oring)กับผิวของวัสดุแข็งแนบสนิทไม่มีช่องว่าง รวมทั้งเมื่อ |
โอริง(Oring) ได้รับแรงดันจากระบบที่ทำงาน จะยิ่งเพิ่มความสามารถขึ้นไปอีกเพราะเมื่อด้านหนึ่งถูกแรงดันกระทำ จะ |
ทำให้อีกด้านหนึ่งเกิดการขยายตัวนั้นเอง... |
|
|
|
|
|
|
1.3 ชนิดของโอริง(Oring Type) |
|
ประเภทหรือชนิดของโอริง(Oring) จะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาผลิตเป็นโอริง(Oring)และลักษณะของการนำ |
ไปใช้งานเป็นหลัก ซึ่งโอริง(Oring) ไม่ได้มีหน้าตาเป็นแบบอื่นๆเลยนอกจากมีพื้นที่หน้าตัดเป็นวงกลม และรูปทรงก็ |
เป็นวงกลมด้วยเท่านั้น ฉะนั้นจึงขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาผลิตและการนำไปใช้งานเท่านั้น เช่น FFPM, NBR, EPDM, |
PTFE, VMQ, FVMQ เป็นต้น ส่วนโอริง(Oring)ที่มีการผลิต และใช้กันมากทั้งในอุตสาหกรรมฯ, เครื่องมืออุปกรณ์ |
และในงานทั่วๆไป หลักๆพอสรุปได้ดังนี้ |
|
- โอริง(Oring) NBR (Nitrile, Buna-N, NBR) |
|
- โอริง(Oring) ไวตัน Viton (Viton® or Fluorocarbon,FKM) |
|
- โอริง(Oring) ซิลิโคน (Silicone, VMQ) |
|
- โอริง(Oring) EPDM (Ethylene Propylene) |
|
|
|
1.4 วัสดุที่ใช้ผลิตโอริง (Oring Material) |
|
วัสดุที่ใช้ผลิตโอริง มีการคิดค้นขึ้นมาใช้กันหลากหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติต่อการใช้งานแตกต่างกัน |
ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน แต่มีไม่กีชนิดที่รู้จักกันและนิยมใช้กันในชิ้นส่วนเครื่องจักรกล ดังนี้ |
|
 |
|
PTFE O-Rings |
|
Silicone O-Rings |
|
Viton® O-Rings, Fluorocarbon (FKM) |
|
Buna O-Rings, NBR Oring |
|
EPDM O-Rings |
|
Other Available Materials |
|
|
|
Nitrile (Buna-N, NBR) |
|
ไนไตรเป็นยางทั่วๆไป ในกลุ่มของ Acrylonitrile Terpolymer Butadiene โดย acrylonitrile เป็นสาร |
ประกอบไนไตรล์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ(18% ถึง 50%) มีผลต่อสมบัติทางกายภาพของวัสดุ ส่งผลดีต่อความต้าน |
ทานต่อน้ำมันและความร้อนระดับหนึ่งในช่วงอุณหภูมิ -40 °C ถึง 120 °C(oil) หรือ 90 °C(water) ขณะเดียวกันยังมี |
ความยืดหยุ่นและมีความต้านทานต่อแรงกดบีบอัด ยางไนไตรยังมีคุณสมบัติเชิงกลที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับยางชนิดอื่น ๆ |
และมีความต้านทานการสึกหรอสูง จึงนิยมใช้กันมาก |
|
|
|
CR (Chloroprene) |
|
เป็นยางสังเคราะห์ในยุคแรกที่พัฒนาในเชิงพาณิชย์ ถูกนำไปใช้งานทั่วไปในสภาวะที่ต้องการความต้านทาน |
ต่อสารเคมี แต่ก็มีสมบัติเชิงกลที่ดีในช่วงอุณหภูมิที่กว้างๆ เป็นยางที่มีต้นทุนต่ำสามารถพบได้ในกลุ่มยางรองเท้าและ |
ผลิตภัณฑ์ทั่วไป ในช่วงอุณหภูมิ -40 °F ถึง 250 °F (-40 °C ถึง 121 °C) ช่วงหลังๆไม่เป็นที่นิยม |
|
|
|
EPDM (Ethylene Propylene) |
|
EPDM เป็นพอลิเอทิลีน(ethylene) และโพรพิลี(propylene) โดยยาง Ethylenepropylene diene-(EPDM) |
จะถูกผลิตโดยใช้โมโนเมอร์ที่สามและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการกันรั่วซึมในของเหลวไฮดรอลิคส์ และในระบบเบรก |
มีช่วงอุณหภูมิการทำงานในวงกว้าง -65 °F ถึง 300 °F (-55 ?C ถึง 150 °C) นอกจากนี้นี้ยังใช้ในการอบไอน้ำและ |
อุณหภูมิที่ต่ำกว่าการใช้งานที่อุณหภูมิปรกติด้วย |
|
|
|
Silicone (VMQ) |
|
ซิลิโคน เป็นยางที่ครอบคลุมกลุ่มของวัสดุจำพวก vinyl-methyl-silicone(VMQ) ซึ่งมักจะเป็นส่วนผสมกลางๆ |
ยางซิลิโคนเป็นยางที่มีความต้านทานแรงดึงค่อนข้างต่ำฉีกขาดง่ายและมีความต้านทานการสึกหรอได้ไม่ดี แต่ซิลิโคน |
มีความต้านทานความร้อนได้ดีขึ้นถึง 450 °F (232 °C) และสภาวะความเย็นได้ดีที่ -75 °F (-59 °C) |
|
|
|
Viton® or Fluorocarbon (FKM) |
|
Viton®(fluorocarbon rubber) เป็นยางที่มีคุณสมบัติที่ดีมากตัวหนึ่งที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นเพื่อผลิตเป็นยาง |
ขอบซีล(Seal rubber) เป็นยางที่มีคุณสมบัติสามารถต้านทานได้ดีในที่อุณหภูมิสูงในทุกๆสภาพ เช่น อากาศทั่วไป, ใน |
น้ำมันไฮโดรลิกส์, น้ำมันเชื้อเพลิง, สารตัวทำละลาย, หรือสารละลายเคมีบางอย่าง เป็นตัน จึงเป็นวัสดุที่ดีที่ถูกเลือกนำ |
นำมาเป็นวัสดุยางซีล(Seal rubber) Viton® มีความสามารถในช่วงอุณหภูมิ -15 °F ถึง 450 °F (-26 °C ถึง 232 °C) |
|
|
|
Fluorosilicone (FVMQ) |
|
ฟลอโร่ซิลิโคน(Fluorosilicone) เป็นยางในกลุ่ม trifluoropropyl ถัดจากกลุ่มเมธิล มีสมบัติเชิงกลและกายภาพ |
คล้ายกับยางซิลิโคน(Silicone,VMQ)แต่ฟลอโร่ซิลิโคนคิคค้นพัฒนาขึ้นสำหรับงานระบบน้ำมันเชื้อเพลิงโดยมีความ |
ต้านทานต่อสารแร่ในน้ำมัน แต่ทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ไม่ดีเมื่อเทียบกับซิลิโคน ยางฟลอโร่ซิลิโคนมีช่วงอุณหภูมิที่ |
กว้างที่ในช่วงอุณหมูมิ 350°F(180°C) ถึง100°F(38°C)ซึ่งจะใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับงานแรงดันต่ำในระบบ |
น้ำมันเชื้อเพลิง และสภาพอากาศที่เย็นจัดๆ ได้เป็นอย่างดี |
|
|
|
1.5 สเปกและขนาดของโอริง (Oring Specification ) |
|
 |
|
มาตรฐานการกำหนดสเปกและขนาดของโอริง(Oring) จะถูกกำหนดด้วย 2 ค่าตัวแปรที่สำคัญ คือ |
|
d1 คือ ขนาดเส้นผ้าศูนย์กลางภายใน(Inner Diameter) ของโอริง |
|
d2 คือ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางพื้นที่หน้าตัด(Arear Diameter) ของโอริง |
|
|
โดยมีรูปแบบ ดังนี้ |
|
|
|
|
ตัวอย่างเช่น |
|
Oring - |
NRB |
60.00 |
x |
3.55 |
Oring - |
NRB |
60.00 |
x |
5.00 |
Oring - |
NRB |
60.00 |
x |
7.00 |
|
|
|
|
|
Oring - |
VMQ |
120.00 |
x |
2.20 |
Oring - |
VMQ |
120.00 |
x |
5.60 |
Oring - |
VMQ |
120.00 |
x |
10.00 |
|
|
|